เมื่อพูดถึงโรคภูมิแพ้ เป็นโรคที่พบมากในประเทศไทยในเด็กคิดเป็นร้อยละ38 ส่วนในผู้ใหญ่คิดเป็นร้อยละ 20 ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนผู้ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อาการของโรคภูมิแพ้ก็อาจจะแตกต่างกันออกไป เช่นในบางรายอาจจะเกิดผดผื่นคันตามผิวหนัง น้ำมูลไหล จาม และคัดจมูก เป็นต้น ส่วนสาเหตุของการแพ้ก็มีหลายปัจจัยด้วยกันยกตัวอย่าง กรรมพันธุ์ สภาพแวดล้อม การเลี้ยงสัตว์ ฯลฯ เป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด มีอาการแปรปรวนในตัวเองขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพร่างกาย มิฉะนั้นโรคภูมิแพ้ก็จะกลับมาเป็นได้ใหม่ บางคนอาจจะต้องใช้ยาต่อเนื่องไปตลอด การนำเทคโนโลยีมารักษาโรคภูมิแพ้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าจับตามอง คือการยิงเลเซอร์ไปที่ตัวรับสัมผัสซึ่งจะอยู่ที่บริเวณปลายจมูกด้านหน้าที่เรียกว่า Inferior Turbinate เพื่อทำลายตัวสัญญาณภูมิแพ้ให้ทำงานน้อยลง แล้วยังช่วยลดจำนวนของเส้นเลือดที่อยู่ใต้เยื่อโพรงจมูกจะทำให้ผู้ป่วยหายใจโล่งขึ้น น้ำมูกน้อยลง พลังงานของเลเซอร์จะทำให้เนื่อเยื่อแข็งเส้น เลือดและเยื่อบุจะมีการปรับสภาพประมาณ 1- 2 สัปดาห์ จากนั้นจะมีสะเก็ดแผลเมื่อสะเก็ดหลุดก็จะรู้สึกโล่งจมูก อาการแพ้ก็จะลดลง การใช้ยาน้อยลงตามลำดับ แต่หลังการรักษาต้องระวังเรื่องการว่ายน้ำ การแคะจมูกไม่ควรกระทำ การรักษาด้วยเลเซอร์นี้สามารถใช้กับผู้ป่วยที่มีอายุ 1 ปีขึ้นไป แต่ยารักษาโรคภูมิแพ้ที่ดีที่สุดก็คือ การออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ ดังคำกล่าวที่ว่า “กีฬาเป็นยาวิเศษ”
www.sanook.com/health/12405/